มีผู้เสียหายในคดี "ปริญญ์" เพิ่มอีก 1 คน เป็นคนที่ 15 เป็นพยาน ที่เข้าให้การยืนยันว่า นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาปัตย์ มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศจริง ซึ่งกรณีของเธอเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งตอนนั้นอายุเพียง 17 ปี ขณะที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ อ้างว่าได้รับคำเตือนเกี่ยวกับตรวจสอบผู้เสียหายที่ขอแจ้งความ เพราะอาจมีบุคคลเข้ามากลั่นแกล้งทางการเมือง
พรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ประชาชนมั่นใจในการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและคุณสมบัตินายปริญญ์ ว่าจะไม่มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และผลการตรวจสอบจะเป็นแนวทางป้องกันการใช้ตำแหน่งแสวงหาประโยชน์ทางเพศ และการช่วยเหลือผู้เสียหายสำหรับทุกฝ่ายไปด้วย
ถ้าดูกฎหมาย จะทำอย่างไรให้การดำเนินคดีมีประสิทธิภาพที่สุด สร้างความยุติธรรม ให้ผู้เสียหายได้รับความคุ้มครอง "น้ำแท้ มีบุญสล้าง" ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาการสอบสวนฯ สำนักงานอัยการสูงสุด เสนอว่าต้องปรับแก้กฎหมาย ให้พนักงานสอบสวนแจ้งให้อัยการทราบ และลงตรวจพื้นที่เกิดเหตุทันที ต้องจัดหาอัยการผู้หญิง มาร่วมสอบปากคำ เพื่อลดขั้นตอนสอบสวนเพิ่มเติม ที่จะไปทำร้ายจิตใจเหยื่อซ้ำซาก
พ.ต.อ.หญิง ฉัตรแก้ว วรรณฉวี ประธานชมพนักงานสอบสวนหญิง บอกว่าปัญหาคือ พนักงานสอบสวนมีไม่พอ จึงเสนอว่าควรตั้ง หรือแยกแผนกคดีเกี่ยวกับเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัว ออกมาเฉพาะ ประจำอยู่ในสถานีตำรวจ และต้องเป็นพนักงานสอบสวนเฉพาะทาง ที่ปราศจากอคติ
"อารีวรรณ จตุทอง" ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการสิทธิมุษยชน วุฒิสภา เห็นด้วยว่าควรปรับแก้ขั้นตอนที่ซับซ้อน เพื่อให้ผู้เสียหายเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้สบายใจและง่ายขึ้น
ติดตามชมรายการ "ข่าวค่ำมิติใหม่" ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 18.50 น. และทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 18.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมย้อนหลังได้ทาง http://www.thaipbs.or.th/EveningNews
มีผู้เสียหายในคดี "ปริญญ์" เพิ่มอีก 1 คน เป็นคนที่ 15 เป็นพยาน ที่เข้าให้การยืนยันว่า นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาปัตย์ มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศจริง ซึ่งกรณีของเธอเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งตอนนั้นอายุเพียง 17 ปี ขณะที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ อ้างว่าได้รับคำเตือนเกี่ยวกับตรวจสอบผู้เสียหายที่ขอแจ้งความ เพราะอาจมีบุคคลเข้ามากลั่นแกล้งทางการเมือง
พรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ประชาชนมั่นใจในการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและคุณสมบัตินายปริญญ์ ว่าจะไม่มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และผลการตรวจสอบจะเป็นแนวทางป้องกันการใช้ตำแหน่งแสวงหาประโยชน์ทางเพศ และการช่วยเหลือผู้เสียหายสำหรับทุกฝ่ายไปด้วย
ถ้าดูกฎหมาย จะทำอย่างไรให้การดำเนินคดีมีประสิทธิภาพที่สุด สร้างความยุติธรรม ให้ผู้เสียหายได้รับความคุ้มครอง "น้ำแท้ มีบุญสล้าง" ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาการสอบสวนฯ สำนักงานอัยการสูงสุด เสนอว่าต้องปรับแก้กฎหมาย ให้พนักงานสอบสวนแจ้งให้อัยการทราบ และลงตรวจพื้นที่เกิดเหตุทันที ต้องจัดหาอัยการผู้หญิง มาร่วมสอบปากคำ เพื่อลดขั้นตอนสอบสวนเพิ่มเติม ที่จะไปทำร้ายจิตใจเหยื่อซ้ำซาก
พ.ต.อ.หญิง ฉัตรแก้ว วรรณฉวี ประธานชมพนักงานสอบสวนหญิง บอกว่าปัญหาคือ พนักงานสอบสวนมีไม่พอ จึงเสนอว่าควรตั้ง หรือแยกแผนกคดีเกี่ยวกับเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัว ออกมาเฉพาะ ประจำอยู่ในสถานีตำรวจ และต้องเป็นพนักงานสอบสวนเฉพาะทาง ที่ปราศจากอคติ
"อารีวรรณ จตุทอง" ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการสิทธิมุษยชน วุฒิสภา เห็นด้วยว่าควรปรับแก้ขั้นตอนที่ซับซ้อน เพื่อให้ผู้เสียหายเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้สบายใจและง่ายขึ้น
ติดตามชมรายการ "ข่าวค่ำมิติใหม่" ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 18.50 น. และทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 18.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมย้อนหลังได้ทาง http://www.thaipbs.or.th/EveningNews