วิเคราะห์โอบาม่าเยือนเอเชีย

ออกอากาศ3 พ.ค. 57
การเดินทางเยือนเอเชีย 4 ประเทศ ตลอดระยะ 1 สัปดาห์ของบารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐ ปิดฉากไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ตลอดระยะ 1 สัปดาห์ ผู้นำสหรัฐเดินทางเยือนพันธมิตรสำคัญในเอเชียรวม 4 ประเทศ ไล่จาก ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย ก่อนปิดฉากที่ฟิลิปปินส์ เป้าหมายของการเดินทางเยือนของผู้นำสหรัฐครั้งนี้ คือการสร้างความเชื่อมั่นแก่ประเทศพันธมิตรในเอเชีย ว่าสหรัฐ ยังคงยึดมั่นกับนโยบายต่างประเทศที่ให้เอเชียเป็นศูนย์กลาง ที่คลอนแคลนไปจากการเลื่อนกำหนดเดินทางเพราะปัญหาภายในสหรัฐ การยืนหยัดเคียงข้างด้านการทหารกับมิตรประเทศ และการเดินหน้าเจรจาทางเศรษฐกิจ สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลโอบาม่าปฏิเสธโดยตลอด คือการเข้ามาแสดงตนเพื่อถ่วงดุลย์อิทธิพลจีน ที่แผ่ขยายในเอเชีย แต่ดูเหมือนสัญญาณที่เกิดขึ้นจากการเยือนเอเชียครั้งนี้ จะหมุนอยู่รอบจีนเสียเป็นส่วนใหญ่ เพียงแค่ประเทศทั้ง 4 ที่กำหนดเป็นเส้นทางการเยือน ก็เท่ากับเป็นการขึ้นป้ายบอกจีนแล้วว่า เราอยู่เคียงข้างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ที่ต่างก็มีปัญหาด้านเขตแดนทางทะเลกับจีน ยกเว้นเพียงเกาหลีใต้ ที่ปัญหาไม่ได้ร้ายแรงมากนัก โอบาม่าเริ่มต้นการเดินทางที่ประเทศญี่ปุ่น / แน่นอนว่าเขาได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรี / ได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินี ได้รับพระราชทานเลี้ยงรับรอง และร่วมงานเลี้ยงรับรองของรัฐบาล โอบาม่าไม่ได้สร้างความผิดหวังแก่ญี่ปุ่น เมื่อเขากล่าวอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก ว่าหมู่เกาะเซ็นกากุ หรือเตี้ยวอวี๋ ที่ญี่ปุ่นและจีนต่างอ้างกรรมสิทธิ รวมอยู่ในสทธิสัญญาป้องกันญี่ปุ่น ที่สหรัฐมีหน้าที่จะต้องช่วยปกป้อง หากถูกรุกราน เท่ากับสหรัฐเลือกยืนอยู่ข้างญี่ปุ่นในความขัดแย้งนี้ แม้ว่าจีนจะเตือนตั้งแต่ก่อนเดินทางเยือน ว่าขอให้สหรัฐอย่าลำเอียงเลือกข้าง แต่สหรัฐไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการจากญี่ปุ่น นั่นคือการลงนามในความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย แปซิฟิก หรือ TPP ซึ่งเป็นเขตตกลงการค้าเสรีข้ามแปซิฟิกระหว่าง 12 ประเทศ ที่ไม่มีจีนรวมอยู่ด้วย ซึ่งจะช่วยเศรษฐกิจสหรัฐได้มาก และยังทำให้สหรัฐกลับมามีพื้นที่ยืนทางการค้าในเอเชียอีกครั้ง หลังเสร็จสิ้นการเยือนญี่ปุ่น ประธานาธิบดีสหรัฐมุ่งหน้าสู่เกาหลีใต้ ในการเยือนระยะสั้นๆไม่ถึง 2 วันเต็ม เขาร่วมหารือกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และตกลงให้ในสิ่งที่เกาหลีใต้ต้องการ นั่นคือข้อตกลงทีมกลาโหม 2 ประเทศ ซึ่งจะมีผลอย่างมากในช่วงเวลาที่เกิดสงคราม เพราะสหรัฐจะสามารถควบคุมกองทัพเกาหลีใต้ได้ และช่วยเหลือเกาหลีใต้ได้เต็มที่ ผู้นำสหรัฐประกาศจะไม่ลังเลที่จะใช้กำลัง หากเกาหลีเหนือกระทำการก้าวร้าว ท่ามกลางการส่งสัญญาณว่าเกาหลีเหนืออาจทดลองนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 4 มาถึงมาเลเซีย ซึ่งถือว่ามีความสำคัญทางยุทธศาสตร์การต่างประเทศ เนื่องจากมาเลเซียไม่มีความสัมพันธ์สนิทสนมกับจีนหรือสหรัฐอเมริกามากเป็นพิเศษ และอาจด้วยเหตุนี้ ที่ทำให้หนังสือพิมพ์กลอบอล ไทม์ ที่รัฐบาลปักกิ่งให้การสนับสนุน ลงบทความวิพากษ์วิจารณ์ว่า การเดินทางเยือนมาเลเซียของประธานาธิบดีสหรัฐ ถือเป็นการตกรางวัลแก่รัฐบาลมาเลเซีย ที่มีท่าทีแข็งกร้าวต่อปัญหาการอ้างกรรมสิทธิในทะเลจีนใต้ โอบาม่าได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเช่นกัน สมเด็จพระราชาธิบตี ทรงพระราชทานเลี้ยงแก่เขาและคณะ / แต่ก็เป็นอีกครั้ง ที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ต้องจากมาเลเซียไปแบบมือเปล่า เพราะมาเลเซียยังลังเลที่จะร่วมเดินหน้าในข้อตกลง TPP / ขณะที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้ภาพลักษณ์ไปเต็มๆ ว่าประธานาธิบดีสหรัฐให้การสนับสนุนเขาและรัฐบาลที่กำลังมีคะแนนนิยมลดลงอย่างมาก /  นอกจากนี้การที่โอบาม่า เลือกที่จะไม่พอกับนายอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้าน ยังทำให้เขาเสียคะแนนในสายตานักสิทธิมนุษยชนทั้งในบ้านและทั่วโลกไปอีกเรื่อง ฟิลิปปินส์ คือจุดหมายสุดท้ายของการเยือนเอเชียของประธานาธิบดีสหรัฐ นายเบนิกโน่ นอยนอย อาคีโน่ ต้อนรับโอบาม่าอย่างสมเกียรติ ด้วยแถวทหารกองเกียรติยศ และพิธีเลี้ยงอาหารค่ำต้อนรับประธานาธิบดีอเมริกันคนแรก ที่มาเยือนในรอบกว่า 10 ปี รัฐบาลของทั้งสองประเทศ ตกลงร่วมกันในการลงนามในข้อตกลงว่าด้วยการเพิ่มความร่วมมือด้านกลาโหมระยะเวลา 10 ปี ซึ่งทำให้สหรัฐเพิ่มทหารเข้ามาในฟิลิปปินส์ได้มากที่สุด นับตั้งแต่การปิดฐานทัพที่เมืองซูบิก และคลาร์ก ไปเมื่อต้นยุค 1990 / ข้อตกลงนี้ จะเปิดโอกาสให้ฟิลิปปินส์ สามารถซื้อเรือและเครื่องบินทางการทหารจากสหรัฐได้อย่างรวดเร็วขึ้น ในช่วงเวลาที่ฟิลิปปินส์ต้องการยกระดับกองทัพ และความช่วยเหลือทางทหารจากสหรัฐอย่างยิ่ง อันเนื่องมาจากความขัดแย้งรุนแรงกับจีน เรื่องพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้  สหรัฐไม่ได้อะไรเพิ่มเติมจากฟิลิปปินส์ นอกจากความเชื่อมั่น ละความเป็นพันธมิตรระหว่างรัฐบาลที่เข้มแข็งขึ้น แม้ว่าจะมีเสียงต่อต้านจากประชาชนบางกลุ่ม ที่มองว่าการเข้ามาของสหรัฐ อาจยิ่งทำให้ปัญหาที่มีอยู่กับจีน ยิ่งยุ่งยากขึ้นก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า การเดินทางเยือนเอเชียของนายบารัค โอบาม่าครั้งนี้ อาจพูดได้ว่าประสบความสำเร็จ แต่ดูเหมือนประเทศที่โอบาม่าไปเยือน จะได้ประโยชน์มากกว่าผู้มาเยือน โอบาม่า ไม่ได้สัญญา TPP จากญี่ปุ่นและมาเลเซียอย่างที่ต้องการ แต่รัฐบาลของเขาก็สามารถส่งสัญญาณชัดเจนไปยังจีน ว่าสหรัฐกลับมาในเอเชียแล้ว โดยเฉพาะด้านการทหาร ที่เขาทำความตกลงกับทั้งญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ การเดินทางเยือนเกาหลีใต้และมาเลเซีย ในช่วงเวลาที่ทั้งสองประเทศ เพิ่งเผชิญกับโศกนาฏกรรมทั้งเรือเฟอร์รี่ และเที่ยวบิน MH370 ทำให้โอบาม่าได้ช่วยปลอบประโลมและแสดงความเห็นใจรัฐบาลและประชาชนในประเทศที่สูญเสีย ซึ่งเป็นผลดีต่อการดำเนินนโยบายให้เอเชียเป็นศูนย์กลาง แต่คำถามปิดท้ายการเยือนเอเชียของผู้นำสหรัฐ น่าจะอยู่ที่ว่า การเยือนของเขา จะส่งผลให้ประเทศในเอเชีย เชื่อมั่นในนโยบายนี้ได้นานแค่ไหน ท่ามกลางปัญหารุมเร้าในซีกโลกตะวันตก ทั้งเรื่องยูเครนกับรัสเซีย ไปจนถึงกระบวนการสันติภาพตะวันออกกลางที่เหมือนจะคว่ำลงอีกครั้ง ซึ่งคอยดึงความสนใจของผู้นำสหรัฐ ให้ออกห่างจากเอเชียในระยะหลังติดตามชมรายการทันโลก World Update ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 - 21.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/live

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

-
การเดินทางเยือนเอเชีย 4 ประเทศ ตลอดระยะ 1 สัปดาห์ของบารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐ ปิดฉากไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ตลอดระยะ 1 สัปดาห์ ผู้นำสหรัฐเดินทางเยือนพันธมิตรสำคัญในเอเชียรวม 4 ประเทศ ไล่จาก ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย ก่อนปิดฉากที่ฟิลิปปินส์ เป้าหมายของการเดินทางเยือนของผู้นำสหรัฐครั้งนี้ คือการสร้างความเชื่อมั่นแก่ประเทศพันธมิตรในเอเชีย ว่าสหรัฐ ยังคงยึดมั่นกับนโยบายต่างประเทศที่ให้เอเชียเป็นศูนย์กลาง ที่คลอนแคลนไปจากการเลื่อนกำหนดเดินทางเพราะปัญหาภายในสหรัฐ การยืนหยัดเคียงข้างด้านการทหารกับมิตรประเทศ และการเดินหน้าเจรจาทางเศรษฐกิจ สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลโอบาม่าปฏิเสธโดยตลอด คือการเข้ามาแสดงตนเพื่อถ่วงดุลย์อิทธิพลจีน ที่แผ่ขยายในเอเชีย แต่ดูเหมือนสัญญาณที่เกิดขึ้นจากการเยือนเอเชียครั้งนี้ จะหมุนอยู่รอบจีนเสียเป็นส่วนใหญ่ เพียงแค่ประเทศทั้ง 4 ที่กำหนดเป็นเส้นทางการเยือน ก็เท่ากับเป็นการขึ้นป้ายบอกจีนแล้วว่า เราอยู่เคียงข้างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ที่ต่างก็มีปัญหาด้านเขตแดนทางทะเลกับจีน ยกเว้นเพียงเกาหลีใต้ ที่ปัญหาไม่ได้ร้ายแรงมากนัก โอบาม่าเริ่มต้นการเดินทางที่ประเทศญี่ปุ่น / แน่นอนว่าเขาได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรี / ได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินี ได้รับพระราชทานเลี้ยงรับรอง และร่วมงานเลี้ยงรับรองของรัฐบาล โอบาม่าไม่ได้สร้างความผิดหวังแก่ญี่ปุ่น เมื่อเขากล่าวอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก ว่าหมู่เกาะเซ็นกากุ หรือเตี้ยวอวี๋ ที่ญี่ปุ่นและจีนต่างอ้างกรรมสิทธิ รวมอยู่ในสทธิสัญญาป้องกันญี่ปุ่น ที่สหรัฐมีหน้าที่จะต้องช่วยปกป้อง หากถูกรุกราน เท่ากับสหรัฐเลือกยืนอยู่ข้างญี่ปุ่นในความขัดแย้งนี้ แม้ว่าจีนจะเตือนตั้งแต่ก่อนเดินทางเยือน ว่าขอให้สหรัฐอย่าลำเอียงเลือกข้าง แต่สหรัฐไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการจากญี่ปุ่น นั่นคือการลงนามในความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย แปซิฟิก หรือ TPP ซึ่งเป็นเขตตกลงการค้าเสรีข้ามแปซิฟิกระหว่าง 12 ประเทศ ที่ไม่มีจีนรวมอยู่ด้วย ซึ่งจะช่วยเศรษฐกิจสหรัฐได้มาก และยังทำให้สหรัฐกลับมามีพื้นที่ยืนทางการค้าในเอเชียอีกครั้ง หลังเสร็จสิ้นการเยือนญี่ปุ่น ประธานาธิบดีสหรัฐมุ่งหน้าสู่เกาหลีใต้ ในการเยือนระยะสั้นๆไม่ถึง 2 วันเต็ม เขาร่วมหารือกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และตกลงให้ในสิ่งที่เกาหลีใต้ต้องการ นั่นคือข้อตกลงทีมกลาโหม 2 ประเทศ ซึ่งจะมีผลอย่างมากในช่วงเวลาที่เกิดสงคราม เพราะสหรัฐจะสามารถควบคุมกองทัพเกาหลีใต้ได้ และช่วยเหลือเกาหลีใต้ได้เต็มที่ ผู้นำสหรัฐประกาศจะไม่ลังเลที่จะใช้กำลัง หากเกาหลีเหนือกระทำการก้าวร้าว ท่ามกลางการส่งสัญญาณว่าเกาหลีเหนืออาจทดลองนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 4 มาถึงมาเลเซีย ซึ่งถือว่ามีความสำคัญทางยุทธศาสตร์การต่างประเทศ เนื่องจากมาเลเซียไม่มีความสัมพันธ์สนิทสนมกับจีนหรือสหรัฐอเมริกามากเป็นพิเศษ และอาจด้วยเหตุนี้ ที่ทำให้หนังสือพิมพ์กลอบอล ไทม์ ที่รัฐบาลปักกิ่งให้การสนับสนุน ลงบทความวิพากษ์วิจารณ์ว่า การเดินทางเยือนมาเลเซียของประธานาธิบดีสหรัฐ ถือเป็นการตกรางวัลแก่รัฐบาลมาเลเซีย ที่มีท่าทีแข็งกร้าวต่อปัญหาการอ้างกรรมสิทธิในทะเลจีนใต้ โอบาม่าได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเช่นกัน สมเด็จพระราชาธิบตี ทรงพระราชทานเลี้ยงแก่เขาและคณะ / แต่ก็เป็นอีกครั้ง ที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ต้องจากมาเลเซียไปแบบมือเปล่า เพราะมาเลเซียยังลังเลที่จะร่วมเดินหน้าในข้อตกลง TPP / ขณะที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้ภาพลักษณ์ไปเต็มๆ ว่าประธานาธิบดีสหรัฐให้การสนับสนุนเขาและรัฐบาลที่กำลังมีคะแนนนิยมลดลงอย่างมาก /  นอกจากนี้การที่โอบาม่า เลือกที่จะไม่พอกับนายอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้าน ยังทำให้เขาเสียคะแนนในสายตานักสิทธิมนุษยชนทั้งในบ้านและทั่วโลกไปอีกเรื่อง ฟิลิปปินส์ คือจุดหมายสุดท้ายของการเยือนเอเชียของประธานาธิบดีสหรัฐ นายเบนิกโน่ นอยนอย อาคีโน่ ต้อนรับโอบาม่าอย่างสมเกียรติ ด้วยแถวทหารกองเกียรติยศ และพิธีเลี้ยงอาหารค่ำต้อนรับประธานาธิบดีอเมริกันคนแรก ที่มาเยือนในรอบกว่า 10 ปี รัฐบาลของทั้งสองประเทศ ตกลงร่วมกันในการลงนามในข้อตกลงว่าด้วยการเพิ่มความร่วมมือด้านกลาโหมระยะเวลา 10 ปี ซึ่งทำให้สหรัฐเพิ่มทหารเข้ามาในฟิลิปปินส์ได้มากที่สุด นับตั้งแต่การปิดฐานทัพที่เมืองซูบิก และคลาร์ก ไปเมื่อต้นยุค 1990 / ข้อตกลงนี้ จะเปิดโอกาสให้ฟิลิปปินส์ สามารถซื้อเรือและเครื่องบินทางการทหารจากสหรัฐได้อย่างรวดเร็วขึ้น ในช่วงเวลาที่ฟิลิปปินส์ต้องการยกระดับกองทัพ และความช่วยเหลือทางทหารจากสหรัฐอย่างยิ่ง อันเนื่องมาจากความขัดแย้งรุนแรงกับจีน เรื่องพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้  สหรัฐไม่ได้อะไรเพิ่มเติมจากฟิลิปปินส์ นอกจากความเชื่อมั่น ละความเป็นพันธมิตรระหว่างรัฐบาลที่เข้มแข็งขึ้น แม้ว่าจะมีเสียงต่อต้านจากประชาชนบางกลุ่ม ที่มองว่าการเข้ามาของสหรัฐ อาจยิ่งทำให้ปัญหาที่มีอยู่กับจีน ยิ่งยุ่งยากขึ้นก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า การเดินทางเยือนเอเชียของนายบารัค โอบาม่าครั้งนี้ อาจพูดได้ว่าประสบความสำเร็จ แต่ดูเหมือนประเทศที่โอบาม่าไปเยือน จะได้ประโยชน์มากกว่าผู้มาเยือน โอบาม่า ไม่ได้สัญญา TPP จากญี่ปุ่นและมาเลเซียอย่างที่ต้องการ แต่รัฐบาลของเขาก็สามารถส่งสัญญาณชัดเจนไปยังจีน ว่าสหรัฐกลับมาในเอเชียแล้ว โดยเฉพาะด้านการทหาร ที่เขาทำความตกลงกับทั้งญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ การเดินทางเยือนเกาหลีใต้และมาเลเซีย ในช่วงเวลาที่ทั้งสองประเทศ เพิ่งเผชิญกับโศกนาฏกรรมทั้งเรือเฟอร์รี่ และเที่ยวบิน MH370 ทำให้โอบาม่าได้ช่วยปลอบประโลมและแสดงความเห็นใจรัฐบาลและประชาชนในประเทศที่สูญเสีย ซึ่งเป็นผลดีต่อการดำเนินนโยบายให้เอเชียเป็นศูนย์กลาง แต่คำถามปิดท้ายการเยือนเอเชียของผู้นำสหรัฐ น่าจะอยู่ที่ว่า การเยือนของเขา จะส่งผลให้ประเทศในเอเชีย เชื่อมั่นในนโยบายนี้ได้นานแค่ไหน ท่ามกลางปัญหารุมเร้าในซีกโลกตะวันตก ทั้งเรื่องยูเครนกับรัสเซีย ไปจนถึงกระบวนการสันติภาพตะวันออกกลางที่เหมือนจะคว่ำลงอีกครั้ง ซึ่งคอยดึงความสนใจของผู้นำสหรัฐ ให้ออกห่างจากเอเชียในระยะหลังติดตามชมรายการทันโลก World Update ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 - 21.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/live

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

-

ละครย้อนยุค

ดูทั้งหมด

♫ ♫ Songs Popular ♫ ♫

ดูทั้งหมด

คลิปมาใหม่

คนดูเยอะ 👀

ดูทั้งหมด

เสน่ห์ประเทศไทย