สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า แม้ว่าทหาร ตำรวจเมียนมา ใช้ไม้แข็งปราบปรามผู้ชุมนุมด้วยอาวุธสงคราม รวมทั้งมีการใช้ปืนซุ่มยิงระยะไกลหรือสไนเปอร์สังหารผู้ชุมนุม ซึ่งมีการระบุชัดเจนในรายงานสถานการณ์เมียนมาที่ คริสทีน ชลาเนอร์ เบอร์เจอเนอร์ ทูตพิเศษด้านกิจการเมียนมา เสนอที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติเมื่อวันศุกร์ (5 มี.ค.)
ชาวเมียนมาก็ยังออกจากบ้านมาชุมนุมต่อต้านการรัฐประหารอย่างเนืองแน่นนับแสนคนในวันอาทิตย์ ซึ่งสำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่า น่าจะเป็นวันที่มีผู้ชุมนุมหนาแน่นที่สุดนับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่เมืองมัณฑะเลย์ อาจารย์และนักศึกษาแพทย์นั่งชุมนุมประท้วงและร่วมไว้อาลัยให้กับประชาชนที่เสียชีวิตจากการปราบปรามอย่างเหี้ยมโหดของทหารตำรวจ เมียนมา
ที่นครย่างกุ้ง มีการชุมนุมประท้วงอย่างน้อย 3 แห่ง นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า มีการชุมนุมอีกหลายเมืองทั่วเมียนมา โดยที่ทุกแห่งเป็นการชุมนุมโดยสงบ
ตรงกันข้าม ทหาร ตำรวจ ยังคงใช้วิธีปราบปรามที่โหดร้าย ใช้ทั้งอาวุธปืน แก๊สน้ำตา ระเบิดควัน และไม้กระบอง
วิดีโอที่เผยแพร่บนทวิตเตอร์ Myanmar Now ทหารหลายคนใช้ไม้กระบองรุมตีผู้ชุมนุมที่ทรุดตัวอยู่ที่พื้นอย่างบ้าคลั่ง
รอยเตอร์ส รายงานว่า ที่ลาเชี่ยว เมืองชายแดนติดจีน ในรัฐฉาน ตำรวจใช้ทั้งแก๊สน้ำตาและระเบิดควัน สลายผู้ชุมนุม ส่วนที่เมืองบากัน (Bagan) พยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าให้รอยเตอร์สฟังว่า ตำรวจใช้อาวุธปืนสลายการชุมนุม แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นกระสุนยางหรือว่ากระสุนจริง
เมื่อคืนวันเสาร์ต่อเนื่องถึงเช้าตรู่วันอาทิตย์ สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานตรงกันว่า ทหาร ตำรวจเมียนมา ได้จู่โจมบุกตรวจค้นตามบ้านเรือนประชาชนในนครย่างกุ้ง มีการยิงข่มขู่ให้หวาดกลัว รวมทั้งมีการใช้แก๊สน้ำตา
ภาพวิดีโอที่องค์กรสิทธิมนุษยชน Fortify Rights เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ ทหาร ตำรวจเดินถือปืนตามท้องถนน บางช่วงเดินผ่านรถยนต์ก็เอาของแข็งทุบกระจกรถโดยไม่มีเหตุผล
นอกจากนี้ยังมีภาพประชาชนที่ถูกควบคุมตัวเอาสองมือประสานไว้ที่ต้นคอ เดินนำหน้าทหาร ที่ถือปืนเล็งที่ด้านหลังประชาชน