จีนสนับสนุนการประชุมผู้นำอาเซียน หวังเป็นจุดเริ่มต้นให้ทุกฝ่ายรอมชอม
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่านายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนโทรศัพท์หารือแลกเปลี่ยนสถานการณ์ในประเทศเมียนมากับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีของไทย เมื่อวันพฤหัสบดี (22 เม.ย.)
วันเดียวกันรัฐมนตรีต่างประเทศจีนได้โทรศัพท์หารือกับดาโต๊ะ เอรีวัน เปฮิน ยูซอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศบรูไน ด้วยเช่นกัน
นายหวัง อี้ พูดถึงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่กรุงจาการ์ตา ในวันเสาร์ที่ 24 เมษายน ว่ารัฐบาลจีนคาดหวังว่าอาเซียนจะแสดงบทบาทที่สร้างสรรค์ ส่งสัญญาณเชิงบวกเพื่อลดความตึงเครียดในเมียนมาโดยมีข้อเสนอแนะดังนี้
ประการแรก การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการควรมุ่งเน้นสนับสนุนให้เกิดกระบวนการรอมชอมทางการเมืองในเมียนมา มุ่งให้เกิดกระบวนการแก้ปัญหาภายในของเมียนมาโดยให้ทุกฝ่ายร่วมพูดคุย หาทางออกภายในกรอบกฎหมายและรัฐธรรมนูญเมียนมา บนแนวทางเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตย
รัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวังว่า ที่ประชุมผู้นำอาเซียนจะพูดจาหว่านล้อมให้ผู้นำเมียนมาเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมของประเทศและประชาชนเป็นความสำคัญอันดับแรก รวมทั้งส่งสัญญาณให้ทุกฝ่ายในเมียนมาอดทนอดกลั้นร่วมกันหาทางมุ่งสู่การปรองดองของคนในชาติโดยสันติ
“ไม่มีองค์กรกลุ่มประเทศระดับภูมิภาค องค์ใดที่รู้จักและเข้าใจเมียนมา ดีไปกว่าอาเซียน ดังนั้นอาเซียนจึงมีเงื่อนไขที่ดีกว่าองค์กรอื่นในการเข้ามาส่วนร่วมในการช่วยแก้ปัญหาภายในเมียนมา ด้วยกระบวนการที่สร้างสรรค์” รัฐมนตรีต่างประเทศจีนกล่าว
รัฐบาลจีนหวังว่า อาเซียนจะยึดมั่นในแนวทางของอาเซียน ที่เน้นกระบวนการปรึกษาหารือแบบมีส่วนร่วมและหลักฉันทามติ
รัฐมนตรีต่างประเทศจีน เสนอแนะว่า ที่ประชุมผู้นำอาเซียนควรเน้นจุดยืนว่า การแก้ปัญหาในเมียนมาต้องไม่ถูกแทรกแซงจากภายนอก ซึ่งเขาให้จีนเห็นว่าจะทำให้เกิดความวุ่นวายและสถานการณ์ในเมียนมาย่ำแย่มากกว่านี้ พร้อมกับเรียกร้องให้ประชาคมโลกสนับสนุนบทบาทของอาเซียนในการช่วยแก้ปัญหาภายในเมียนมา
นายหวัง อี้ กล่าวว่า การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนนัดพิเศษเพื่อหาทางแก้ปัญหาวิกฤตการเมืองในเมียนมา ในวันพรุ่งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพื่อหาทางแก้ปัญหาอย่างนุ่มนวล (soft landing) และเชื่อว่าประเทศไทย บรูไน และชาติสมาชิกอาเซียน จะมีบทบาทสำคัญยิ่งด้วยบทบาทที่เป็นบุคลิกเฉพาะของอาเซียนในการดำเนินการประชุมให้บรรลุวัตถุประสงค์
รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ย้ำว่า รัฐบาลจีนจะยังคงปรึกษาหารืออย่างใกล้ชิดกับอาเซียน และทำงานกับทุกฝ่ายในเมียนมาบนแนวทางของตัวเอง
การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในวันเสาร์ที่ 24 เมษายน จะเป็นครั้งแรกในรอบปีเศษที่มีการประชุมแบบเห็นหน้าเห็นตากัน และเป็นครั้งแรกที่พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย เดินทางออกนอกเมียนมานับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์
ทั้งนี้ผู้นำชาติอาเซียนที่ยืนยันเข้าร่วมประชุมแล้วมี 7 ประเทศ มีสองประเทศที่ผู้นำส่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเขาร่วมประชุมแทนคือ ไทยและฟิลิปปินส์ขณะที่นายทองลุน สีสุลิด ยังไม่ยืนยันว่าจะเข้าร่วมประชุมหรือไม่
หมายเหตุภาพ Xinhua พิธีสวนสนามวันกองทัพเมียนมา เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2564
จีนสนับสนุนการประชุมผู้นำอาเซียน หวังเป็นจุดเริ่มต้นให้ทุกฝ่ายรอมชอม
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่านายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนโทรศัพท์หารือแลกเปลี่ยนสถานการณ์ในประเทศเมียนมากับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีของไทย เมื่อวันพฤหัสบดี (22 เม.ย.)
วันเดียวกันรัฐมนตรีต่างประเทศจีนได้โทรศัพท์หารือกับดาโต๊ะ เอรีวัน เปฮิน ยูซอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศบรูไน ด้วยเช่นกัน
นายหวัง อี้ พูดถึงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่กรุงจาการ์ตา ในวันเสาร์ที่ 24 เมษายน ว่ารัฐบาลจีนคาดหวังว่าอาเซียนจะแสดงบทบาทที่สร้างสรรค์ ส่งสัญญาณเชิงบวกเพื่อลดความตึงเครียดในเมียนมาโดยมีข้อเสนอแนะดังนี้
ประการแรก การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการควรมุ่งเน้นสนับสนุนให้เกิดกระบวนการรอมชอมทางการเมืองในเมียนมา มุ่งให้เกิดกระบวนการแก้ปัญหาภายในของเมียนมาโดยให้ทุกฝ่ายร่วมพูดคุย หาทางออกภายในกรอบกฎหมายและรัฐธรรมนูญเมียนมา บนแนวทางเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตย
รัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวังว่า ที่ประชุมผู้นำอาเซียนจะพูดจาหว่านล้อมให้ผู้นำเมียนมาเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมของประเทศและประชาชนเป็นความสำคัญอันดับแรก รวมทั้งส่งสัญญาณให้ทุกฝ่ายในเมียนมาอดทนอดกลั้นร่วมกันหาทางมุ่งสู่การปรองดองของคนในชาติโดยสันติ
“ไม่มีองค์กรกลุ่มประเทศระดับภูมิภาค องค์ใดที่รู้จักและเข้าใจเมียนมา ดีไปกว่าอาเซียน ดังนั้นอาเซียนจึงมีเงื่อนไขที่ดีกว่าองค์กรอื่นในการเข้ามาส่วนร่วมในการช่วยแก้ปัญหาภายในเมียนมา ด้วยกระบวนการที่สร้างสรรค์” รัฐมนตรีต่างประเทศจีนกล่าว
รัฐบาลจีนหวังว่า อาเซียนจะยึดมั่นในแนวทางของอาเซียน ที่เน้นกระบวนการปรึกษาหารือแบบมีส่วนร่วมและหลักฉันทามติ
รัฐมนตรีต่างประเทศจีน เสนอแนะว่า ที่ประชุมผู้นำอาเซียนควรเน้นจุดยืนว่า การแก้ปัญหาในเมียนมาต้องไม่ถูกแทรกแซงจากภายนอก ซึ่งเขาให้จีนเห็นว่าจะทำให้เกิดความวุ่นวายและสถานการณ์ในเมียนมาย่ำแย่มากกว่านี้ พร้อมกับเรียกร้องให้ประชาคมโลกสนับสนุนบทบาทของอาเซียนในการช่วยแก้ปัญหาภายในเมียนมา
นายหวัง อี้ กล่าวว่า การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนนัดพิเศษเพื่อหาทางแก้ปัญหาวิกฤตการเมืองในเมียนมา ในวันพรุ่งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพื่อหาทางแก้ปัญหาอย่างนุ่มนวล (soft landing) และเชื่อว่าประเทศไทย บรูไน และชาติสมาชิกอาเซียน จะมีบทบาทสำคัญยิ่งด้วยบทบาทที่เป็นบุคลิกเฉพาะของอาเซียนในการดำเนินการประชุมให้บรรลุวัตถุประสงค์
รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ย้ำว่า รัฐบาลจีนจะยังคงปรึกษาหารืออย่างใกล้ชิดกับอาเซียน และทำงานกับทุกฝ่ายในเมียนมาบนแนวทางของตัวเอง
การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในวันเสาร์ที่ 24 เมษายน จะเป็นครั้งแรกในรอบปีเศษที่มีการประชุมแบบเห็นหน้าเห็นตากัน และเป็นครั้งแรกที่พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย เดินทางออกนอกเมียนมานับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์
ทั้งนี้ผู้นำชาติอาเซียนที่ยืนยันเข้าร่วมประชุมแล้วมี 7 ประเทศ มีสองประเทศที่ผู้นำส่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเขาร่วมประชุมแทนคือ ไทยและฟิลิปปินส์ขณะที่นายทองลุน สีสุลิด ยังไม่ยืนยันว่าจะเข้าร่วมประชุมหรือไม่
หมายเหตุภาพ Xinhua พิธีสวนสนามวันกองทัพเมียนมา เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2564